สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(16 ธันวาคม 2558)----- " สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย" บิ๊ก GUNKUL ตั้งเป้ารายได้ปี 59 โต 25% แตะ 5.8 พันลบ. ปักธงปี 61รายได้แตะ 7.65 พันลบ. คาดมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีอยู่ที่ 2.1 พันลบ. พร้อมมีกำลังการผลิต 550 Mw ระบุกองทัพบกถอนตัวโครงการโซล่าร์สหกรณ์ ไม่กระทบต่อบริษัทฯ มั่นใจคว้า PPA 30 Mw คาดได้เงินจากการขายหุ้น PP ให้ SCB ราว 1 พันลบ. มั่นใจSCB ถือหุ้นยาว คาดโค้งสุดท้ายมีรายได้ราว 800-1 พันลบ. ทั้งปีคาดทำได้ 4.7 พันลบ.

ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 59 จะเติบโต 25 % จากปีนี้ หรือมีรายได้อยู่ที่ 5.8 พันล้านบาท โดยรายได้ปีหน้าจะมีการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์(COD) ใน โครงการโซลาร์ฟาร์มรางเงินจำนวน 58 เมกะวัตต์ที่จะรับรู้รายได้เต็มปี และจะมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมเข้ามา 2 เฟส โดยเฟสแรกจำนวน 10 เมกะวัตต์จะCOD วันที่ 28 ก.พ. 58 ส่วนเฟสที่สองจำนวน 50 เมกะวัตต์จะCOD ในเดือน ก.ค. โดยปีหน้ารายได้จากโครงการลมจะเข้ามาราว 550 ล้านบาท แต่จะรับรู้เต็มปีในปี 60 ซึ่งจะสร้างรายได้ปีละ 800-900 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังจะมีรายได้จากโครงการแก๊สเอ็นจิ้นในประเทศพม่าจำนวน 25 เมกะวัตต์และ จากการ COD โครงการโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์ 30 เมกะวัตต์ที่บริษัทฯมั่นว่าจะได้รับใบอนุญาตในการซื้อขายไฟฟ้า(PPA) โดยมีกำหนดCOD ตั้งวันที่ 30 ก.ย 59

ขณะที่ บริษัทฯ ตั้งเป้าปี 61 จะมีรายได้อยู่ที่ 7.65 พันล้านบาท และมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) อยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ามีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมไม่ต่ำกว่า 550 เมกะวัตต์

ทั้งนี้บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ตั้งปี 60 มีรายได้อยู่ที่ 6.7 พันล้านบาท และมี EBIT ที่ 1.9 พันล้านบาท โดยบริษัทฯ จะพยามเร่งการจำหน่ายไฟฟ้าและหาเพิ่มใบอนุญาตในมืออย่างต่อเนื่อง โดยมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการทั้งหมด 6 โครงการ จำนวน 322.3 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทยอยจ่ายไฟฟ้าจนถึงปี 61 ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าที่รางเงิน จำนวน 87 เมกะวัตต์ ,โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 170 เมกะวัตต์ และโครงการโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่นอีก 2แห่ง 65.25 เมกะวัตต์

สำหรับกรณีที่กองทัพบก ได้ประกาศขอถอนตัวเข้าร่วมเสนอขายไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าโครงการโซลาร์ราชการและสหกรณ์การเกษตร นั้น บริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบเพราะได้เข้าร่วมเสนอขอใบอนุญาตร่วมกับหน่วยงานสหกรณ์ชุมชนไม่ได้เกี่ยวข้องกับกองทัพบกแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ตามที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศเลื่อนการจับสลากโครงการดังกล่าว จากเดิมวันที่ 15 ธ.ค. 58 ไปเป็นวันที่ 22 ธ.ค. 58 ซึ่งทางบริษัทฯมั่นใจว่าจะได้รับใบอนุญาตในการซื้อขายไฟฟ้า(PPA) จำนวน 30 เมกะวัตต์ จากที่ผ่านคุณสมบัติจำนวน 50 เมกะวัตต์

"เราไม่ได้เกียวข้องกับทางกองทัพบก กองทัพเรือ หรือตำรวจ ซึ่งเรามีการได้เข้าร่วมกับหน่วยงานสหกรณ์ชุมชน ตอนแรกเรามีการยื่นไป 170 เมกะวัตต์ ผ่านคุณสมบัติมา 50 เมกะวัตต์ ครับ โดยเรามั่นใจว่าจะได้ PPA 30 เมกะวัตต์ แน่นอน แต่ตอนนี้เราก็สอบถามไปถืออีก 120 เมกะวัตต์ที่เราไม่ผ่านเป็นเพราะอะไร ซึ่งจริงๆโครงการของเราไม่ได้อยู่บริเวณผังเมืองไม่น่าจะได้รับผลกระทบ"ดร.สมบูรณ์กล่าว

ดร.สมบูรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ คาดว่าจะได้รับเงินจากการขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง(PP) ให้แก่ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)SCB จำนวน 41,500,000 หุ้น ที่เสนอขายในราคา 24 บ./หุ้น โดยจะเปิดขาย 1 ก.พ.59 ซึ่งคาดว่าจะได้รับกว่า 1 พันล้านบาท ขณะที่เงินที่ได้รับจะนำมาลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนนักลงทุนสถาบันถือหุ้น GUNKUL ประมาณ 10% ซึ่งหลังจาก SCB เข้ามาถือหุ้นจะเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนสถาบันเป็น 13 % และในอนาคตคาดว่าจะมีสัดส่วนการถือหุ้นจากนักลงทุนสถาบันเพิ่มมากขึ้น และช่วยให้ราคาหุ้นของGUNKUL มีเสถียรภาพมากขึ้น อีกทั้งมั่นใจว่า SCB จะถือหุ้นระยะยาวเพื่อการเติบโตในอนาคต

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีเงินลงทุนเพียงพอ ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้รับเงินจากการเพิ่มทุนของผู้ถือหุ้นเดิม(RO) จำนวน 4 พันล้านบาท นอกจากนี้ยังมีการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นหุ้นสามัญในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยจะมีเงินเข้ามาอีก 2.5 พันล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังความสามารถในการกู้ยืมเงินจากสถาบันทางการเงินได้อีกกว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบันมีอัตราหนี้สินต่อทุน(D/E)1.07 เท่า

สำหรับผลประกอบการไตรมาส4/58 บริษัทฯคาดไตรมาส 4/58 จะมีรายได้ราว 800-1,000 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์(COD) จากโครงการโซลาร์ฟาร์มรางเงิน จำนวน 87 เมกะวัตต์ ที่บริษัทฯถือหุ้น 67 % หรือคิดเป็นจำนวน 58 เมกะวัตต์ คิดเป็นรายได้ประมาณ 450 ล้านบาท และส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากงานก่อสร้าง

ทั้งนี้รายได้ในปี 58 คาดว่าจะอยู่ที่ 4.7 พันล้านบาท หรือเติบโต 50 % จากปีก่อนที่มีรายได้ 3.30 พันล้านบาท แต่ยังต่ำกว่าเป้าหมายที่บริษัทฯตั้งไว้ 4.9 พันล้านบาทเล็กน้อยเนื่องจากได้รับผลกระทบจากโครงการแก๊สเอ็นจิ้นในประเทศพม่าจำนวน 25 เมกะวัตต์ที่มีการเลื่อนการ COD ไปเป็นปีหน้าเนื่องจากรอความชัดเจนทางการเมืองในพม่าหลังจบการเลือกตั้ง

"รายได้ไตรมาส 4/58 น่าจะทำได้ 800-1,000 ล้านบาทโดยมีการับรู้รายได้จากรางเงินครับ รางเงินประมาณ 87 เมกะวัตต์ แต่เราถือหุ้น 67 % คิดเป็น 58 เมกะวัตต์ คิดเป็นรายได้ 450 ล้านบาท และเป็นกำไรประมาณ 3 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ ครับ ส่วนปีนี้เองรายได้น่าจะทำได้ 4.7 พันล้านบาท อาจจะต่ำกว่าที่วางไว้เล็กน้อย แต่เรายังเติบโตได้ 50 % จากปีก่อนครับ"ดร.สมบูรณ์ กล่าว

ณ เวลา 12.23 น. ราคาหุ้น GUNKUL อยู่ที่ 21.90 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 1.35% มูลค่าการซื้อขาย 12.56 ล้านบาท

 

ผู้สื่อข่าว : เกศรินทร์ สำแดงภัย

(สุกัญญา ศิริรวง รายงาน; ธนัสสรณ์ เปี่ยมสมบูรณ์ เรียบเรียง;โทร 02-276-5976  อีเมล์: reporter@hooninside.com/ )02-276-5976

ที่มา: หุ้นอินไซด์

วันที่ : 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558